Tips & Tricks การดูแลชุดสายพานรถออโตเมติก เพื่อให้รถมีประสิทธิภาพที่ดีและอยู่กับเราไปนานๆ

โพสเมื่อ : 20 ก.พ. 2566 11:09

สวัสดีครับเพื่อนๆวันนี้ทาง VRthairider ได้มี Tips & Tricks เล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับการดูแลรถที่ใช้ระบบส่งกำลังแบบสายพาน หรือ รถออโตเมติกที่เราเรียกกันติดปากนั่นเองครับ ซึ่งปัจจุบันรถออโตเมติกนั้นเรียกได้ว่าเป็นที่นิยมในการใช้งานค่อนข้างมาก และก็ยังมีความเชื่อผิดๆเกี่ยวกับการใช้งานรถประเภทนี้ว่า “ซื้อมาขี่อย่างเดียวเติมน้ำมัน เปลี่ยนน้ำมันเครื่องแค่นี้ก็พอ อย่างอื่นไม่ต้องสนใจ” ซึ่งผมเองนั้นได้ยินคำพูดแนวนี้บ่อยมาก ซึ่งต้องบอกว่าเป็นความคิดที่ผิดเลยครับ รถออโตเมติกนั้นก็ต้องการ การบำรุงรักษาไม่ต่างจากรถเกียร์ที่ส่งกำลังด้วยโซ่ และจะว่าไปแล้วระบบส่งกำลังของรถออโตเมติกนั้นก็เป็นหัวใจหลักๆที่ต้องใส่ใจไม่น้อยกว่าการดูแลเครื่องยนต์เลยครับ

สายพานของรถออโตเมติก ก็เปรียบเสมือนโซ่ของรถเกียร์นั่นเอง ซึ่งก็มีอายุการใช้งานเช่นกัน ซึ่งโดยปกติแล้วจะมีอายุการใช้งานที่ควรเปลี่ยนอยู่ที่ราว 20,000 กิโลเมตร โดยปกติแล้วนั้นหากมีการนำรถเข้าใช้บริการที่ศูนย์บริการตลอดก็จะมีการตรวจเช็คให้อยู่แล้ว แต่มีเจ้าของรถหลายคนที่ไม่ได้นำรถเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการตลอดอายุการใช้งาน บางครั้งเข้ารับบริการ 2-3 ครั้ง ก็ใช้บริการนอกศูนย์กันเยอะ จนทำให้หลายครั้งที่เรื่องของการบำรุงรักษาหรือตรวจสอบชุดขับเคลื่อนของรถจึงไม่ได้รับการตรวจสอบครับ

จะเห็นเยอะมากที่ไม่เคยบำรุงรักษาชุดขับเคลื่อนเลย บางทีใช้รถมาจนมีอาการผิดปกติถึงเอาเข้ามาเช็ค เมื่อช่างรื้อออกมาถึงขั้นตกใจกันเลยทีเดียว เพราะบางครั้งถึงขั้น เม็ดสึก จะเรียกว่าสึกก็ไม่ได้ เรียกว่าพังเลยดีกว่า บางคันสายพานแตก สายพานขาดกันเลยก็มี

ซึ่งจะว่าไปแล้ว Tips & Tricks นี้ไม่ได้ยากอะไร หากท่านเป็นคนที่นำรถเข้าตรวจเช็คที่ศูนย์ทุกครั้งตามระยะที่กำหนดในคู่มือ แต่หากว่าเป็นคนที่ใช้รถอย่างเดียว หรือเอาไปเซอร์วิสรถจากร้านข้างนอก ส่วนมากช่างจะไม่เช็คในจุดนี้ให้ หากเราไม่ได้ร้องขอครับ สำหรับคนที่ไม่เคยนำรถเข้าไปตรวจเช็คตามระยะนะครับ อันดับแรกเลยให้ลองนึกดูว่าเราไม่ได้ดูแลชุดส่งกำลังนานแค่ไหนแล้วครับ หากมันนานจนจำไม่ได้ นำรถเข้าร้านแล้วให้ทางร้านรื้อเช็คครับ

อันดับต้นๆเลยก็คือ ดูเรื่องของความสะอาดครับ เพราะชุดสายพานเมื่อมีการใช้งานไปนานๆย่อมมีเศษฝุ่น เศษฝุ่นจากสายพานต่างๆ ที่จะอยู่ในห้องสายพานครับ จัดแจงเป่าและทำความสะอาดให้เรียบร้อย

อันดับที่สองก็คือ สายพานครับ หากเกินระยะมาแล้วแนะนำให้เปลี่ยนเลยครับ หรือ หากใครที่เป็นสายแต่ง ชามแต่ง สายพานยิ่งต้องดูแลเป็นพิเศษครับ เช็คดูว่าสายพานมีอาการหมดสภาพ แตกหรือไม่ หากมีอาการเหล่านี้ แนะนำเปลี่ยนเลยครับ

อันดับที่สาม เม็ดตุ้มถ่วง แต่คนจะเรียกติดปากว่า เม็ด ให้เช็คดูสภาพว่ามีการสึกมาก หรือ สึกผิดปกติ หรือไม่ เพราะหากเม็ดมีการสึกมากจนเกินไปจะส่งผลต่อน้ำหนักของเม็ด และมีผลต่อกำลังเครื่องยนต์รวมไปถึงความเร็วของตัวรถด้วยครับ หากสึกมากหรือสึกผิดปกติเปลี่ยนโลดครับ

อันดับที่สี่ ชาม ต้องตรวจเช็คร่องชามว่าปกติหรือไม่ รวมไปถึงส่วนที่สัมผัสกับสายพานด้วยว่ามีอาการสึกมากจนเกินไป หรือมีอาการสึกเป็นแห่งๆหรือไม่ เพราะบางครั้งการขับขี่แช่ในช่วงความเร็วบางความเร็วบ่อยๆตลอดเวลาเป็นปีๆ ชามก็จะมีการสึกในส่วนนั้นค่อนข้างมากเช่นกันครับ หากชามมีอาการสึกมากจนเกินไป ก็ควรเปลี่ยนครับ

อันดับที่ห้า เป็นส่วนที่หลายๆคนไม่ค่อยทำกันเท่าไหร่ ก็คือการหล่อลื่นระบบต่างๆในส่วนของชุดคลัทช์หลัง รถบางคันเล่นเอาซะจารบีแห้งกันเลยก็มี ใส่สารหล่อลื่นเข้าไปเพื่อให้ชุดคลัทช์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดครับ

ซึ่งหลักๆการดูแลชุดส่งกำลังของรถออโตเมติกก็จะมีเพียงเท่านี้ครับ สำหรับเพื่อนๆที่ไม่เคยดูแลในจุดนี้เลย ก็เอารถออโตเมติกของตนเองไปดูแลรักษากันด้วยนะครับ เพื่อประสิทธิภาพการใช้งานที่ดีที่สุด อย่ารอให้รถเสียหรือมีอาการแล้วค่อยเอามาซ่อมครับมันไม่คุ้มครับ

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

รีวิว&ทดสอบ พาเจ้า Lambretta V200 Special ตำนานรถสกู๊ตเตอร์สุดคลาสสิคสายพันธุ์อิตาลี ลุยฝนขึ้นจุดสูงสุดของประเทศไทย

วันนี้ผมมีโอกาสได้รีวิวตำนานรถสกู๊ตเตอร์สุดคลาสสิคสายพันธุ์อิตาลี ยี่ห้อหนึ่งที่หลายๆคนที่รักสกู๊ตเตอร์ต้องรู้จักยี่ห้อนี้เป็นอย่างดี นั่นก็คือ Lambretta ซึ่งได้นำเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย คงสมใจหลายๆคนที่รอคอยรถรุ่นนี้แน่นอน

รีวิว & ทดสอบ Yamaha XSR155 Sport Heritage ออกแบบโดยคนไทย

Yamaha XSR155 กับรถในสไตล์ Sport Heritage ที่ได้มีรุ่นพี่อย่าง XSR900 และ XSR700 ออกมาทำตลาดมาก่อนแล้ว และในวันนี้จากฝีมือการออกแบบโดยคนไทยกับ XSR155

รีวิว & ทดสอบ All New Yamaha Exciter 155 จัดให้หนักตะลุยทุกสภาวะ กับระยะทางร่วม 600 กม.

All New Yamaha Exciter 155 ถือว่าเป็นเจเนอเรชั่นที่ 3 แล้วสำหรับรถ Sport Moped อย่าง Exciter ซึ่งด้วยตัวผมเองนั้นได้มีโอกาสทดสอบและใช้งานหนักๆมาแล้วกับ Yamaha Exciter ทั้งใน เจเนอเรชั่นที่ 1 และการทดสอบมากกว่า 4,000 กิโลเมตร